Day 2 Tbilisi (თბილისი) – ทบิลิซี่

ในยุคของกษัตริย์ วาคตัง กอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) ได้ค้นพบเมืองทบิลิซี่ ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 5 โดยมีเรื่องเล่ากันว่า กษัตริย์ วาคตัง ได้ออกล่าสัตว์ แล้วพบว่ากวางถูกยิงมาตกอยู่ใกล้กับน้ำพุร้อนกำมะถันแล้วพบว่ากวางตัวนั้นสามารถหายจากบาดแผลได้เอง อีกแหล่งนึงบอกว่า กษัตริย์ วาคตัง ได้ออกมาล่าสัตว์ แล้วเหยี่ยวของพระองค์จับไก่ฟ้าได้ เมื่อตามไปดูพบว่าทั้งเหยี่ยวและไก่ฟ้าตกลงมาในบ่อน้ำแร่ร้อน พบว่าบริเวณนี้เป็นบริเวณที่เหมาะสมในการตั้งเมือง

ซึ่งคำว่า Tbili แปลว่า อุ่น นั้นอาจจะมาจากน้ำพุร้อนนั่นเอง ปัจจุบัน ทบิลิซี่ เป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ

ก่อนจะเริ่มผจญภัยในวันที่ 2 เราขอแนะนำการใช้รถไฟฟ้าของที่ทบิลิซี่กันก่อน รถไฟฟ้าของเมืองทบิลิซี่ เป็นรถไฟฟ้าที่เก่าแก่ เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 1966 โดยเป็น 1 ใน 4 ของสายที่ก่อสร้างขณะเป็นสหภาพโซเวียต ลักษณะจึงอาจจะคล้ายกับ Metro ในมอสโคว คือ ขุดลงไปลึก มีบันไดเลื่อนขึ้นลง แต่ไม่มีบันไดธรรมดา

ภายในของสถานี Metro ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนบ้านเรา ทางเข้าจะมี  Counter ขายบัตรอยู่ ซึ่งคนที่จะใช้บริการจำเป็นต้องซื้อ Metro Card ในราคา 2 GEL ซึ่งสามารถคืนได้ที่เคาเตอร์ซื้อตั๋วทั้งที่สถานีรถไฟฟ้าและสถานีกระเช้า แต่จำเป็นต้องเก็บใบเสร็จที่ซื้อครั้งแรกไว้ และตอนคืนต้องใช้ passport (แต่ตอนซื้อไม่ต้องใช้นะ) พร้อมกับเติมเงินสามารถเติมได้เรื่อย แนะนำว่าค่อยๆเติม เพราะตอนคืน เขาคืนแค่ค่าบัตร ไม่คืนเงินที่เหลือข้างใน

โดยบัตรนี้สามารถใช้ได้ทั้ง รถไฟฟ้า กระเช้าขึ้นNarikala และรถบัสในเมืองได้ด้วย โดยราคาจะอยู่ที่ 0.5 GEL (รถบัสในเมืองบางคันราคา 0.8 GEL) บัตร 1 ใบ สามารถใช้ได้หลายคน คือเมือผ่านเข้าไปแล้ว ส่งกลับไปให้เพื่อนอีกคนได้ เพราะว่าตอนออกจะไม่ต้องแตะบัตรออก แต่อาจจะไม่ค่อยสะดวกนักในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะมีคนมาต่อคิวเรื่อยๆ

แนะนำว่าซื้อคนละใบได้เลย เพราะสามารถคืนบัตรได้ ก่อนกลับนั่นเอง และนี่คือตัวอย่างของ Metro Card

และนี่คือแผนที่ของรถไฟฟ้าที่เมืองนี้ โดยรถไฟฟ้าจะมีทั้งที่วิ่งใต้ดินและวิ่งระดับดิน โดยสถานีในเมืองจะอยู่ใต้ดิน สถานีนอกเมืองจะอยู่ระดับดิน

โดยสถานีนี่ ควรจะรู้จักคือ

• Didube เป็นสถานีที่เดินเชื่อมต่อไปยัง สถานที่นั่งรถตู้ต่อไปยังทางเหนือและตะวันตก
• Station square เป็นสถานีที่เชื่อมกับสถานีรถไฟกลาง ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่จะนั่งไป Zugdidi หรือ Batumi
• Rustaveli เป็นสถานีที่อยู่ต้นถนน Shota Rustaveli
• Liberty Square เป็นสถานีที่อยู่บริเวณ Liberty square จะมีห้างสรรพสินค้าใกล้กับสถานี และมีที่พักอยู่ใกล้เคียง
• Avlabari เป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับ Old town หรือไปยังวิหาร Tbilisi St. Trinity Cathedral

 

โดยวันที่สองของการท่องเที่ยว เช้าวันนี้เราวางแผนที่จะไปยัง Kazbegi แต่ก็ได้ยินข่าวจากเพื่อนในโฮสเทล และคนขับแทกซี่แถวๆ old town ว่าถนนที่จะไปยัง kazbegi ปิด เนื่องจากหิมะตก แต่พวกเราคิดว่าคนที่รู้ดีที่สุดว่าไปได้ไหม คงต้องเป็น แทกซี่ ที่ didube เท่านั้น หลังจากทานอาหารเช้า เราจะเดินไปเก็บของก่อนย้ายที่พัก ปรากฏว่ามีขบวนของประธานาธิบดีของอาร์เมเนีย มาเยี่ยม Saint George Armenian Cathedral ทำให้มีตำรวจมาปิดถนนเราไม่สามารถเดินกลับไปยังที่พักได้ เราจึงต้องเปลี่ยนแพลนกะทันหัน

เราเลยเลือกที่จะไปเดินเล่นชมเมืองกันก่อน โดยเดินอ้อมไปยังสวน Haydar Aliyev garden เป็นสวนขนาดเล็กๆ เหมาะกับการเดินเล่น และถัดไปเป็น Sulfur bath บริเวณนี้เป็นโรงอาบน้ำมีทั้งที่เป็นสาธารณะและส่วนตัว เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีลำธารที่มีสายแร่กำมะถัน ปะปนอยู่ หากลงไปเดินตรงลำธารเล็กๆ เราก็จะได้กลิ่นของกำมะถันด้วย

บริเวณนี้จะเห็นเป็นโดม แต่ะละโดมคือ 1 ห้องอาบน้ำ โดยเชื่อว่าการมาอาบน้ำผสมกำมะถันนี้ จะทำให้ร่างกายสะอาดและดีต่อสุขภาพ พวกเราไม่ได้เข้าไปใช้บริการกัน เลยไม่ทราบเรื่องราคา

นี่เป็นอนสาวีรย์ของเหยี่ยวที่ เชื่อว่าเป็นของกษัตริย์ วาคตัง ตามตำนานเล่าของเมืองตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของสวน Haydar Aliyev garden ด้านหน้าของ Sulfur bath

และนี่คือ Orbeliani Baths เป็นโรงอาบน้ำส่วนตัวที่ถือว่าหรูหราที่สุดในบริเวณนี้

เมื่อเดินต่อไปบนถนน Abano street แล้วเลาะไปตามข้างตึกไปโผล่ยังถนน Botanikuri street ซึ่งเป็นถนนลาดชัน สามารถขึ้นไปชมยัง Saint Nicholas Church และ Narikala Fortress แต่เราเลือกเดินตรงไปสุดถนน จะเจอกับ National Botanical Garden

National Botanical Garden of Tbilisi city เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากช่วงที่เราเป็นหน้าหนาว ทำให้ต้นไม้ดูแห้งๆ ไม่เขียวมากนัก แต่เหมาะกับผู้ที่ต้องการมาเดินเล่น เดินชิว ออกกำลังกาย กินบรรยากาศ อากาศก็ไม่ร้อนมาก และมีบางมุมที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้อีกด้วย สวนนี้จะอยู่หลัง Mother of Georgia และหากเดินเข้าไปลึก ก็จะมีน้ำตกขนาดย่อมให้ชมกันด้วย

เวลาเปิด 9 am และเวลาปิดแตกต่างกันในแต่ละเดือน

• เดือนมีนาคม ปิดเวลา 6 pm
• เดือนเมษายนถึงสิงหาคม ปิดเวลา 8pm
• เดือนกันยายน ปิดเวลา 7 pm
• และเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ปิดเวลา 5 pm

ค่าเข้าชม คนละ 2 Lari

Botanical Garden จะอยู่ด้านหลังของ Mother of Georgia

บริเวณด้านในของ Botanical Garden เนื่องจากอยู่บนที่สูง ทำให้สามารถเห็นเมือง Tbilisi ได้ทั้งเมืองเลย

หลังจากออกจาก Botanical Garden แล้วสามารถเดินต่อไปชมยัง Narikala fortress / Mother of Georgia และ Saint Nicholas Church ได้ แต่เราคิดว่าเรายังมีเวลากัน จึงลงมาเดินเที่ยวเมืองเก่า และในตัวเมืองต่อ

 

เส้นทางเดินเที่ยวชมเมืองที่แนะนำ คือ

หากไม่ได้พักย่านเมืองเก่า แนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Avlabari แล้วเดินมาทางถนน Wine Rise มุ่งตรงมายัง Europe Square ด้านข้างของจัตุรัส แวะเข้าชม 1. Metekhi St.Virgin Church บริเวณนั้นจะมี 2.Statue of King Vakhtang Gorgasal รูปปั้นของกษัตริย์วาคตัง ผู้ก่อตั้งเมืองทบิลิซี่ จากนั้นไปเดินเล่นที่ 3. Rike park โดยจาก Rike park สามารถมองเห็น 4. Presidential Palace จากนั้นนั่งกระเช้าขึ้นไป 5. Narikala Fortress  หรือหากพักย่านเมืองเก่าก็สามารถเดินขึ้นก็ได้  จากนั้นเดินลงมาตามถนน Orbiri street แวะเที่ยวชม 6. Saint George of Armenian Cathedral เดินมายัง 7. Median เป็นจัตุรัสบริเวณเมืองเก่า มีร้านอาหารชื่อดัง Samikitno อาหารท้องถิ่นจอร์เจีย ที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ เปิด 24 ชั่วโมง และบริเวณด้านหน้ามี 8.ป้าย I love Tbilisi จากนั้นเดินมายังถนน Kote Afkhazi street เดินมาเรื่อยๆ แยกไปที่ถนน Sioni street แวะชม 9. Sioni Cathedral of the Dormition จากนั้นเดินไปบนถนน Erekle II ที่สองข้างทางเป็นร้านคาเฟ่ และมีร้านของฝากเล็กน้อย เพื่อไปยัง 10. Peace bridge เป็นสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำ Mtkvari River จากบริเวณบนสะพานสามารถชมวิวของ Presidential Place และ Tsminfa Sameba Cathedral ที่อยู่ทางด้านตะวันออกของแม่น้ำได้ อาจจะเดินข้ามสะพานไปเดินเล่น Rike park (หรือบางคนอาจจะได้เดินชมแล้วตั้งแต่ก่อนจะขึ้นกระเช้า) ก็ได้ จากนั้นให้เดินข้ามสะพานย้อนกลับมาเลี้ยวขวาไปตามถนน Erekle II ข้ามไปยังถนน Loane Shavteli ไปต่อยัง 11. Anchiskhati Basilica เป็นโบสถ์เก่า ถัดไปข้างๆเป็นหอนาฬิกา 12. Clock Tower จากนั้นเดินไปยังถนน Nikoloz Baratashvili ทางด้านซ้ายมือจะเดินเลียบไปกับกำแพงเมืองเก่า 13. City wall เดินตะรางไปเรื่อยๆ จะผ่านอนุสาวรีย์ Alexander Pushkin ตรงไปยัง 14. Liberty square (Freedom square) เห็นโรงแรมสุดหรู Courtyard by Marriott Tbilisi เมื่อเดินชมรอบ liberty square แล้วก็เดินเลียบไปตามถนน Shota Rustaveli จะผ่านห้าง Galleria Tbilisi และข้างๆ มีสถานีรถไฟใต้ดิน Liberty square เดินไปเรื่อยๆ ทางซ้ายมือจะเห็น 15. Parliament of Georgia ประดับธงชาติจอร์เจียและธง EU เดินเลยอีกนิดจะผ่านหน้าโรงเรียน หากมองทางด้านขวาจะเห็น 16. Museum of Georgia ให้ข้ามทางลอด จะไปโผล่ยัง 17. St. George Church สามารถเข้าไปชมภายใน และเดินย้อนกลับไปทาง Liberty square เล็กน้อย เพื่อเข้าชมยัง 18. Museum of Georgia เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของจอร์เจีย จัดแสดงประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจีย ถือว่าทำได้ดี (เทียบกับบ้านเรา) ค่าเข้าชม คนละ 7 Lari หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เรียบร้อย เดินออกมาเลี้ยวขวา ข้างๆจะเป็น 19. Rustaveli Movie Theaters เป็นโรงภาพยนตร์ใครอยากลองแวะเข้าไปชมก็ได้  (แอบบอกว่าซอยระหว่างพิพิธภัณฑ์และโรงภาพยนตร์ มีร้าน Kachapuri อร่อยชื่อ No.1 Sakachupre แนะนำว่าสั่งขนาดเล็ก พอดี 1 คน) จากนั้นเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะผ่าน Tbilisi Marriott และ 20. Opera & Ballet theatre การเดินบนถนนเส้นนี้เหมือนเรากำลังเดินเล่นอยู่บนถนน Champs Elysees ที่ปารีสกันเลยทีเดียว เดินไปเรื่อยๆ ไปยัง 21. Georgian National Academy of Sciences และเดินต่อไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Rustaveli เป็นอันสิ้นสุดทัวร์ประจำวัน แต่หากใครยังมีเวลาเหลือ ให้เลี้ยวขวาไปตามถนน Milheli Javakhishivili จะเห็นจักรยานยักษ์อยู่ด้านบนอุโมงค์ทางลอด เดินต่อไปเดินเล่นบนสะพาน 22. Galaktion Tabidze ถ่ายวิวแม่น้ำ Mtkvari ซึ่งจะเห็นวิวตึก 23. The Biltmore Hotel ตึกกระจกที่มองจากมุมไหนของเมืองก็เห็นตึกนี้ มุ่งหน้าไปบนถนน Kote Marjanishvili เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Marjanishvili กลับที่พักได้ (รวมระยะเวลาเดินเที่ยวประมาณ 4-6 ชั่วโมง)

นี่คือแนวทางที่เราแนะนำ ทำให้สามารถเที่ยวเมือง Tbilisi ได้เกืือบครบโดยไม่ย้อนไปมา แต่เนื่องจากพวกเราอาจจะไม่ได้เดินตามนี้ หรือเก็บได้ไม่ครบ แต่จะเอาภาพบรรยากาศของเมืองมาให้ชมกัน โดยจะพยายามไล่เรียงจากแนวทางด้านบน

 

เริ่มต้นด้วยการเดินขึ้น Metekhi St.Virgin Church โดยทางขึ้นจะอยู่ใกล้กับ Europe square

ลานด้านบนมีรูปั้นของกษัตริย์วาคตัง ที่สามารถมองเห็นเมืองเก่าและภาพพื้นหลังเป็น Narikala Fortress ที่สามารถเดินขึ้น หรือนั่งกระเช้าขึ้นไปก็ได้ 

จากมุมด้านบนวิหารสามารถเห็น Europe Square ซึ่งกำลังเตรียมจัดการ Countdown ปีใหม่ และไกลๆนั่นคือ Rike park และ Peace bridge

Metekhi St.Virgin Church และ Statue of King Vakhtang Gorgasal จากบริเวณ old town

ภาพจากบริเวณ Rike Park จะมองเห็น Presidential Palace ที่นี่ไม่เปิดให้สามารถเข้าชม จึงแนะนำว่ามองจากทาง Rike park ก็พอ

จากนั้นนั่งกระเช้าขึ้นไปชม Narikala Fortress เป็นป้อมปราการเก่าที่อยู่บนเขา และด้านข้างมีรูปปั้นของ Mother of Georgia ซึ่งสามารถเดินไปชมบริเวณใกล้ๆได้ เมื่อขึ้นไปชมด้านบน

 

เมือเดินลงมาจาก Narikala Fortress ไปแวะ Saint George of Armenian Cathedral

เดินต่อมาจะถึงบริเวณ Median ซึ่งมีทางเดินใต้ดิน เป็นร้านค้าที่ขายของฝาก โดยบริเวณนี้จะมีร้านอาหารชื่อดังคือ Samikitno ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และราคาก็ไม่แพง โดยด้านหน้าของร้านจะมีป้าย I love Tbilisi ที่เหมือนเป็น Landmark สำหรับการถ่ายภาพของนักท่องเที่ยว

หลังจากนั้นก็เดินชมเมือง และนี่คือภาพบรรยากาศภายในเมืองเก่าของ Tbilisi

ตามถนนจะมีตู้อัตโนมัติที่สามารถเติมเงินโทรศัพท์ ซื้อตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ และทำอะไรได้หลายอย่าง แต่เหล่านักท่องเที่ยวอาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าไหร่นะ ใครอยากลองไปกดเล่นดูก็ได้

ตามรายทางจะมีร้านที่ขายขนมขึ้นชื่อของจอร์เจีย คือ churchkhela ทำจากถั่วและองุ่น

และนี่เป็นบรรยากาศของ Peace bridge 

บรรยากาศบริเวณ Liberty square หรือ Freedom square

Tbilisi City Assembly

จากนั้นเดินไปตามถนน Shota Rustaveli Avenue (ที่เหมือนกับเดินอยู่ที่ Champ Elysee)

เดินมาเรื่อยๆ ผ่าน Parliament of Georgia Parliament of Georgia มีลานสเกตน้ำแข็งเล็กๆ ต้นคริสต์มาสต์และการประดับธงจอร์เจียและ EU (ที่เป็นการบอกว่าจอร์เจียพร้อมที่จะเข้าร่วมในสหภาพยุโรป)

จากนั้นถัดไปจะเป็นบริเวณโรงเรียนเอกชน ซึ่งช่วงที่เราไปนักเรียนพึ่งเลิกเรียนพอดี ทำให้มีภาพเด็กๆให้เห็นบ้าง ซึ่งจะมีทางลอดไปยังถนนฝั่งตรงข้าม

ข้ามถนนมายัง St. George Church และเดินย้อนกลับไปเป็น Rustaveli cinema

ย้อนไปอีกนิดจะเป็น National Museum of Georgia เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจีย ค่าเข้าชมคนละ 7 Lari ด้านในจะมีที่ฝากกระเป๋า

• ชั้นที่ 1 เป็นบริเวณที่แสดง วิวัฒนาการของมนุษย์ มีกระโหลกศีรษะของมนุษย์จากทั่วมุมโลก อธิบายประวัติศาสตร์ ซึ่งมีนักเรียนประถมมาทัศนศึกษาพร้อมทั้งมีอาจารย์ของอธิบาย
• ชั้นใต้ดิน เป็นบริเวณจัดแสดงโบราณวัตถุ และเครื่องประดับในสมัยอดีต
• ชั้นที่ 2 เป็นบริเวณจัดแสดงชุดประจำชาติของชาวจอร์เจีย
• และชั้นบนสุด เป็นบริเวณจัดแสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการเมือง การเป็นส่วนหนึ่งของสหภาโซเวียต การแยกตน และสงครามที่มีผู้คนบาดเจ็บล้มตาย

ใครเป็นสายพิพิธภัณฑ์บอกเลยว่าคุ้มค่ามากกับการเข้าชม แต่อย่าลืมทานอะไรก่อนนะ เพราะคุณเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในนี้ได้ถึง 2-4 ชั่วโมงกันเลย

ออกมาแล้วเดินไปตามถนน Shota Rustavali ต่อผ่าน Opera & Ballet theatre 

จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ ไปยัง Georgian National Academy of Sciences

เดินถัดไปจะเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน Rustaveli แต่พวกเรายังมีเวลาเหลือ จึงเดินตามถนน Milheli Javakhishivili จะเห็นจักรยานยักษ์อยู่ด้านบนอุโมงค์ทางลอด

จากนั้นเดินต่อไปเดินเล่นบนสะพาน Galaktion Tabidze ถ่ายวิวแม่น้ำ Mtkvari ซึ่งจะเห็นวิวตึก  The Biltmore Hotel ตึกกระจกที่มองจากมุมไหนของเมืองก็เห็นตึกนี้ เรามุ่งหน้าไปบนถนน Kote Marjanishvili เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Marjanishvili 

หลังจากเราเดินชมเมืองกันเรียบร้อยแล้ว เรานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับมายังสถานี Avlabari จากนั้นเดินย้อนกลับไปทางถนน Avlabari Square ต่อไปยังถนน Hamlet Gonashvili (หากมาใกล้ค่ำ ไม่แนะนำสำหรับใครมาคนเดียวเท่าไหร่ เนื่องจากถนนค่อนข้างมืด) เพื่อไปยัง Tbilisi St. Trinity Cathedral เป็นวิหาร ออโธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์เจีย และตั้งอยู่บนเขาสูง สามารถมองเห็นเมืองจากที่นี่ได้

บริเวณไม่ไกล มี Presidential Palace แต่ไม่แนะนำให้เดินชม เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปบริเวณโดยรอบได้ และถนนบริเวณนั้นค่อนข้างเปลี่ยว เหมาะกับการชมจากระยะไกลจากสวน Rike park น่าจะเพียงพอ

และแล้วก็จบภารกิจของวันนี้ ถือว่าเป็นวันหนึ่งที่เหนื่อยมากเพราะเราเดินกันทั้งวัน แต่ทบิลิซี่ถือเป็นเมืองที่สวยงาม แม้จะสกปรกไปบ้าง แต่ฟตุบาธและอากาศก็เหมาะกับการเดินเที่ยวชมเมือง

 

---

Series ชุด [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด….

ตอนที่ 1 เตรียมพร้อมออกเดินทาง

ตอนที่ 2 [Day 1] Mtskheta & Gori เมืองแห่งประวัติศาสตร์

ตอนที่ 3 [Day 2] Tbilisi นี่หรือเมืองหลวง