- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 1 เตรียมพร้อมออกเดินทาง
- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 2 [Day1] Mtskheta & Gori เมืองแห่งประวัติศาสตร์
- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 3 [Day 2] Tbilisi นี่หรือเมืองหลวง
- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 4 [Day 3] Kazbegi ชมเทือกเขาคอเคซัส
- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 5 [Day 4] Mestia นี่คือสวรรค์
- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 6 [Day 5-7] Kutaisi เมืองแห่งความวุ่นวาย
- [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด…. ตอนที่ 7 [Day 8] Bad dream in Tbilisi
Day 1 : Tbilisi – Mtskheta – Gori – Tbilis
เข้าสู่วันแรกของการผจญภัยในต่างแดนอีกครั้ง กับประเทศจอร์เจีย ซึ่งวันนี้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ซึ่งถือว่าเป็นวันที่มีการเฉลิมฉลองเทศการ Christmas ทั่วโลก แต่ไม่ใช่ในจอร์เจีย เนื่องจากประเทศจอร์เจียนับถือศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ ซึ่งจะเฉลิมฉลองวันคริสมาสต์ตามปฏิทินเก่า นั่นคือ วันที่ 7 มกราคม
Mtskheta (მცხეთა) – ม์สกีท่า
เมือง Mtskheta เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรจอร์เจียตะวันออกตั้งแต่ ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลจนถึง ศตวรรษที่ 5 หลังคริสตกาล จนกระทั่งกษัตริย์ Vakhtang Gorgasli ได้ย้ายเมืองหลวงไปยังเมือง Tbilisi (ทบิลิซี่) เมืองหลวงของจอร์เจียในปัจจุบัน เมืองซกีท่า เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางจิตใจอย่างมากของชาวจอร์เจีย ถือว่าเป็นเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ และมี Svetitiskhoveli Cathedral ที่เป็นวิหารเพื่อการเฉลิมฉลองของชาวจอร์เจียที่เกือบทั้งประเทศนับถือศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์
โดยเมืองซกีท่า อยู่ห่างจากเมืองทบิลิซี่ เพียงแค่ 20 กิโลเมตร จึงง่ายแก่การท่องเที่ยวแบบ one-day trip
โดยในวันแรกหลังจากพวกเรานำกระเป๋าไปฝากไว้ที่พัก เราจึงเริ่มการท่องเที่ยวด้วยการออกเดินทางไปยังนอกเมือง Tbilisi กันก่อน มุ่งหน้าไป Mtskheta
การเดินทาง พวกเรานั่งรถไฟใต้ดิน จาก Avlavari ไปลงที่สถานี Didube
Didube เป็นเหมือนสถานีขนส่งสายเหนือและตะวันตก สามารถเดินทางไปยัง Mshketa, Kazbegi, Gori, Borjomi, Kutaisi, Akhaltsikhe หรือ Batumi
เมื่อลงจากสถานี didube ให้เดินชิดขวา อ้อมลงไปทางลอด จะไปโผล่ยังสถานี จะมีแทกซี่เข้ามาถามเราว่าจะไปไหน ถ้าแพลนอยากไปแทกซี่ (รถรับจ้าง) ก็ตกลงราคากันได้เลย แต่ถ้าไม่อยากก็ให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ตรงไปอย่างเดียว จะข้ามถนนเล็กๆ เดินไปอีกนิดก็จะทะลุท่ารถตู้แล้ว อยากไปที่ไหน ให้ลองถามคนแถวนั้นได้เลย ว่าจะไปที่นี่ขึ้นรถที่จะไปเมืองนี้ตรงไหน
บริเวณในภาพนี้คือจุดจอดรถตู้ ที่จะเดินทางไป Kazbegi และ Mtskheta
Marshrutka (คือ รถตู้มินิแวน ที่สามารถยืนได้) หากเดินทางจาก Didube to Mtskheta ค่าโดยสาร 1 Lari จ่ายกับคนขับตอนลงรถ (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที รถออกทุก 15 นาทีตั้งแต่เวลา 7:30 am to 8:30 pm (เดินทางกลับ Tbilisi ทุก 20 นาที ตั้งแต่เวลา 8 am to 8 pm) รถจะไปจอดใกล้กับ Svetitskhoveli Cathedral
ซึ่งวันนี้เราเกือบถอดใจ เนื่องจากว่าคนรอที่จะเดินทางด้วยรถตู้สายนี้เยอะมาก แต่รถก็มาถี่มากเช่นกัน ซึ่งตามปกติแล้วคงไม่เยอะเท่านี้ แต่เราพบว่าวันนี้ 25 ธันวาคม เป็นวันที่วิหารมีการจัดงานเกี่ยวกับ catholicos patriarch ทำให้คนจากทบิลิซี่ต่างมุ่งหน้ามาที่ Mtskheta
Svetitskhoveli Cathedral เปิดให้เขาชมตั้งแต่เวลา 8:00 am to 8:00 pm เราเข้าไปภายในวิหารแต่เนื่องจากมีการจัดงาน ทำให้มีชาวจอร์เจียจำนวนมาก อยู่ภายใน พวกเราได้แค่ยืนสังเกตุการณ์พิธีกรรมเพียงเล็กน้อย แล้วปลีกตัวออกมาเดินเล่นโดยรอบ วิหารนี้ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของสถาปัตยกรรมเกี่ยวกับโบสถ์วิหาร
ที่ Svetitskheveli chathedral จะมี tourist information อยู่ด้านหน้า เราสามารถติดต่อรถ Taxi เพื่อขึ้นไปยัง Jvari monastery ได้ ในราคาคนละ 5 Lari โดยจะรอจนกว่าจะครบกลุ่มละ 4 คน ทางเจ้าหน้าที่จะโทรติดต่อคนขับแทกซี่ให้ (หรือสามารถเหมาได้ ในราคา 20 Lari) ราคาไป-กลับ แต่หากจะคิดว่ามีโอกาสจะเหมาแทกซี่ไปเที่ยวต่อ หลังจากไป Jvari monastery เราขอแนะนำให้ไปเที่ยว Samtavro monastery ก่อน เพราะว่าอาจจะไม่แวะกลับเข้ามาใน Mtsketa อีก
พวกเรามากัน 3 คนและไม่มีนักท่องเที่ยวรออยู่เลย จึงตัดสินใจเหมารถ เมื่อเจ้าหน้าที่โทรติดต่อแล้ว แทกซี่จะมาจอดรอเราใกล้ๆ โดนจ่ายเงินที่แทกซี่หลังจากกลับมาถึงที่หมายแล้ว พี่แทกซี่จะขับรถพาขึ้นไป Jvari monastery และจอดรอเรา
Jvari monastery เปิดให้บริการเวลา 8:00 am to 7:00 pm โดยที่นี่จะอยู่ขึ้นมาบนเขา ซึ่งจะสามารถมองเห็นเป็นจุดที่แม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกัน (ได้แก่แม่น้ำ Aragvi และ Mtkvari ที่ผ่านไปยังเมืองทบิลิซี่) เราแนะนำว่าหากมาตอนเช้า ภาพจะออกมาสวยและไม่ย้อนแสง และสามารถมองเห็นเมือง Mtskheta ได้ทางทิศตะวันออก แต่วันที่เราไปลมแรงมาก ทำให้อากาศหนาวจนไม่อยากจะอยู่นาน
แพลนของเรา ณ เมือง Mtskheta คือแค่เที่ยว Samtavro monastery แล้วกลับ Tbilisi แต่เนื่องจากเรายังไม่มีโปรแกรมและยังเหนื่อยจากการเดินทาง แล้วก็โดนพี่คนขับแทกซี่ ที่พูดภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ เพื่อขายทริปจะให้เราเหมาเขาต่อไปทั้งวัน เพื่อไปเที่ยวต่อ โดยมี 2 ที่หลักๆ ที่เขาเสนอ คือ
- Gori พาเที่ยวเมือง Gori และพาขับรถไปชมยัง Uplisikhe (อู-พลิสซิเค่) เป็นหมู่บ้านโบราณของชาวจอร์เจียที่เกิดจากการเจาะภูเขา ในราคา 100 Lari (ไม่รวมกับ 20 Lari แรก)
- Anauri แล้วเขาก็ชี้ไปที่ภูเขาหิมะไกลลิบๆ บอกว่าอาหารที่นั่นอร่อย ในราคา 120 Lari ดีที่พวกเราได้ทำการบ้านมาบ้าง เรามีแพลนจะไป Kazbegi อยู่แล้ว ซึ่งต้องผ่าน Anauri อยู่แล้ว
ลุงกล่อมพวกเราอยู่นาน บวกกับความเหนื่อยจากการนั่งเครื่องบิน และยังไม่มีแพลน พวกเราจึงเลือกที่จะเหมารถของลุงไป ยัง Gori แล้วเราก็หลับระหว่างทางไปยัง Gori กันทั้ง 3 คน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) (แต่หากเดินทางด้วยตนเอง จะประหยัดไปได้มาก)
Gori (გორი) – โกรี่
Gori อยู่ทางตะวันตกของเมืองทบิลิซี่ ห่างไปประมาณ 80 กิโลเมตร เมืองนี้เป็นบ้านเกิดของ Stalin ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้นำของสหภาพโซเวียต ต่อจาก วลาดิมีร์ เลนิน
การเดินทาง
จาก Mtskheta ไป Gori สามารถนั่งรถไฟไปได้ ในราคา 1-6 Lari (แล้วแต่ที่นั่ง) แต่สถานีรถไฟของเมือง Mtskheta อยู่ห่างไปจากตัวเมืองราว 2 km แต่ขากลับจากขึ้น Jvari monastery สามารถขอให้แทกซี่แวะไปส่งได้ เพราะเป็นทางผ่าน มีเที่ยวเวลา 7 am , 9.15 am, 5pm และ 9:30 pm แต่เนื่องจากบริหารเวลาลำบาก อาจจะลองเหมาแทกซี่ไปให้ส่งเที่ยวเดียวดู จากระยะทางแล้วไม่ควรเกิน 30 Lari/คัน (ไม่แน่ใจว่ามี Marshrutky จาก Mtskheta ไหม)
แต่หากจะเดินทางจาก Tbilisi ไป Gori สามารถขึ้นรถตู้ได้ที่ Didube เช่นกัน ราคา 3 Lari/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 15 นาที รถออกทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 7 am to 7:30 pm
(แนะนำว่าหาก วางแผนจะไปสองเมืองนี้พร้อมกัน ให้เดินทางไป Gori ก่อน แล้วเหมารถไป Uplistsikhe แล้วลองหารถตู้นั่งกลับมา Mtskheta หากไม่มีก็เหมาแทกซี่ แล้วค่อยนั่งรถตู้กลับ Tbilisi)
เมื่อเราเดินทางมาถึง Gori คุณลุงคนขับพาเรามาแวะที่แรกคือ Stalin museum ค่าเข้าชมราคา 15 Lari (รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์และ รถไฟด้านข้าง) แต่เจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยขายเหมา แต่พวกเราก็ไม่รู้ว่าขึ้นรถไฟข้างๆได้ด้วยเลย ไม่ได้ขึ้น
Stalin museum จะกล่าวถึง ประวัติความเป็นมา ของสตาร์ลินเป็นหลัก เราก็ได้แต่เดินชมกัน เนื่องจากคำอธิบายส่วนใหญ่ไม่มีภาษาอังกฤษ เป็นภาษาจอร์เจียและรัสเซีย
หลังจากเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว คนขับก็พาเราแวะถ่ายรูปที่ Gori Fortress แต่ไม่ได้ขึ้นไปกัน เพราะเขาเหมือนจะแค่พาเราแวะเท่านั้น เลยคิดว่าหากมาเที่ยวกันเองก็สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปบนนั้นได้ด้วย (น่าเสียดายจัง) โดยในเมือง Gori ก็สามารถเดินเท้าได้
จากนั้นพี่แทกซี่ก็พาเราไปต่อยัง Uplistsikhe
Uplistsikhe ที่นี่เป็นเหมือนเมืองเก่าในอดีต ที่ก่อสร้างอยู่บนภูเขา โดยใช้การเจาะผู้เขาลักษณะเป็นถ้ำตื้นๆ เป็นที่พักอาศัยและเป็นที่จัดกิจกรรมของเมือง
การเดินทาง มายัง Uplistsikhe นอกจากเหมาแทกซี่มาจาก Gori แล้วยังมีรถตู้จาก Gori ด้วย ในราคา 1 Lari (รถตู้จาก Gori มุ่งหน้าสู่ง Kvakhvreli ) แต่เราไม่แนะนำเนื่องจากรอบไม่มาก และบริหารเวลาลำบาก ครั้นนั่งไปแล้วจะหาแทกซี่เหมากลับมาก็ลำบากเช่นกัน
วิธีที่แนะนำคือการเหมา Taxi จาก Gori ไปยัง Uplistsikhe สามารถตกลงได้ในราคา 20-30 Lari/คัน เป็นราคาไป-กลับ รวมรอรับกลับ
Uplistsikhe มีค่าเข้าชมคนละ 5 Lari (English guide ราคา 15 Lari) ข้อควรระวัง ที่นี่ลมแรงมากควรจะมีเสื้อกันหนาวหรือกันลม (แล้วแต่ฤดู) และต้องเดินด้วยเท้าขึ้นบันไดเท่านั้น ไม่มีลิฟท์ ดังนั้นไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
หลังจากเยี่ยมชม Uplistsikhe ก็เริ่มเย็น เราให้พี่คนขับรถแทกซี่พากลับ โดยแวะเยี่ยม Samtavro monastery ก่อนเนื่องจากเรายังไม่ได้แวะกัน
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ Didube และนั่งรถไฟใต้ดินย้อนกลับที่พัก เป็นอันหมดวัน
Series ชุด [Georgia] ประเทศจอร์เจีย เที่ยวแบบประหยัด….
ตอนที่ 1 เตรียมพร้อมออกเดินทาง
ตอนที่ 2 [Day 1] Mtskheta & Gori เมืองแห่งประวัติศาสตร์
ตอนที่ 3 [Day 2] Tbilisi นี่หรือเมืองหลวง